วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2556

พุทธประวัติ ตอน ตรัสรู้

พุทธประวัติ       ทรงตรัสรู้ ในวันเพ็ญขึ้น  15 ค่ำ เดือน 11
- ขณะมีพระชนมายุได้ 35 พรรษา ในวันที่พระองค์ตรัสรู้ นางสุชาดาได้ถวายข้าวมธุปายาส(หุงด้วยนม) ใต้
ต้นไทรเมื่อเสวยเสร็จแล้วทรงลอยถาดทองในแม่น้ำเนรัญชรา ทรงอธิษฐานเสี่ยงพระบารมีว่า... 
ถ้าอาตมาจะได้ตรัสแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณแล้ว ขอให้ถาดนี้จงลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไป  
ถาดทองนั้นลอยทวนกระแสน้ำขึ้นไป ๑ เส้น แล้วก็จมลงตรงนาคภพพิมานแห่งพญากาฬนาคราช 
พระองค์ทรงโสมนัสและแน่พระทัยว่าจะได้ตรัสรู้ เป็นพระสัพพัญญูสัมพุทธเจ้า โดยหาความสงสัยมิได้
 ในเวลาเย็นโสตถิยะให้ถวายหญ้าคา 8 กำมือ ปูลาดเป็นอาสนะ ณ โคนใต้ต้นโพธิ
ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา (ปัจจุบันคือ ต.พุทธคยาประเทศอินเดีย)

ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ว่าจะบรรลุโพธิญาณ ประทับหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก
ในคืนที่พระองค์จะตรัสรู้นั้นพญามาร ทราบว่าพระองค์จะตรัสรู้แน่ในคืน
นี้ จึงนำกองทัพมาร เข้าล้อมเขตบัลลังก์ของเจ้าชายสิทธถะไว้อย่างแน่นหนาทำให้บรรดาเทวดาทั้งหลายที่พากันมาห้อมล้อมถวาย
สักการบูชาหนีและปล่อยให้พระองค์ต่อสู้กับพญามารแต่พระองค์เดียวเมื่อ
พระองค์รู้ว่าไม่มีใครที่ไหนจะช่วยได้ ก็ทรงระลึกถึงบารมีธรรมทั้ง ๓๐ ประการ จึงทำให้พระองค์สามารถผจญกับหมู่มารและ ขับไล่ให้ปราชัยหนีไปให้สิ้นเชิง
หลังจากที่ตรัสรู้แล้ว ได้พิจารณาธรรมเป็นเวลา 7 สัปดาห์ ทรงเห็นว่าพระธรรมที่
ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อน ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้ ทรงเกิดความท้อพระทัยว่าจะไม่แสดงธรรมโปรดมหาชน ต่อมาท่านได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้ง แล้วทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ เปรียบเสมือนบัว ๔ เหล่า
เหล่าที่  1 ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ
เหล่าที่  2 ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ
เหล่าที่  3 ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ
เหล่าที่ 4 ดอกบัวที่จมอยู่ใต้โคลนตม
ดังนั้นแล้วจึงดำริที่จะแสดงธรรมเพื่อมวลมนุษยชาติต่อไป 

   หลังจากที่พระองค์ตรัสรู้พระองค์ทรงระลึกถึงปัญจวัคคีย์ทั้ง 5  จึงเสด็จไปที่ป่าอิสปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นกาสี ปัจจุบันคือสารนาถ เมืองพาราณสี ในวันขึ้น 15 เดือน 8 จึงทรงปฐมเทศนา " ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรหลังจากฟังพระธรรมเทศนาแล้วทำให้ โกญฑัญญะ เกิดดวงตาเห็นธรรม จึงขอบวชในพระพุทธศาสนา
ทรงโปรดพระพุทธบิดาและพระประยูรญาติ ณ กรุงกบิลพัสดุ์
พระนางยโสธราก็ให้พระกุมารราหุลซึ่งมีอายุ 7 ปีไปทูลขอราชสมบัติ พระพุทธเจ้าเห็นว่าราชสมบัติเป็นสิ่งไม่จีรังยั่งยืน อริยทรัพย์(ทรัพย์อันประเสริฐ)ต่างหากเป็นสิ่งยั่งยืน จึงทรงให้พระสารีบุตรทำการบรรพชาให้ราหุลเป็นสามเณร จึงเป็นสามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนา ณ นิโครธาราม พระเจ้าสุทโธทนะจึงขอร้องว่า "ขออย่าให้ทรงบวชใคร โดยที่พ่อแม่เขายังไม่
ได้อนุญาต"เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ จากนั้นก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์
พระนางปชาบดีโคตมี(พระน้าของพระพุทธเจ้า) ได้ผนวชเป็นภิกษุณีรูปแรกในพระพุทธศาสนา 
เมื่อประดิษฐานพระศาสนาในแคว้นมคธได้อย่างมั่นคงแล้ว ต่อมาไม่นานพระพุทธศาสนาก็มีศูนย์กลางแห่ง
ใหม่ที่ เมืองสาวัตถี แคว้นโกศล โดยอนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้สร้าง"วัดพระเชตวัน"ขึ้น แล้วกราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ไปอยู่ประจำ

( อ่านพุทธประวัติ ตอน ปรินิพพานได้ในโพตส์ต่อไป)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น